ข้อพิพาทการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล: ศาลจีนตัดสินให้โจทก์ต้องรับภาระขาดทุน

4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา
อ่าน 6 นาที
4 มุมมอง

ข้อพิพาทเกี่ยวกับการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลในจีน

ตามรายงานจาก Southeast Net ศาลมาเวยในมณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน ได้สรุปผลในข้อพิพาทเกี่ยวกับการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีที่มาจากการซื้อขายอย่างไม่เป็นธรรม ในเดือนเมษายน ปี 2024 ชายคนหนึ่งชื่อ ซุย ติดต่อชายชื่อ เย่ ในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเสนอตัวจะซื้อสกุลเงินดิจิทัล หลังจากที่เย่ตกลง ซุยได้ชำระเงินจำนวน 18,000 หยวน ผ่าน Alipay ในวันเดียวกัน เย่ขายให้ซุยที่ราคา 7.6 หยวนต่อหน่วย โดยมียอดการทำธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 2,368.42 หน่วย.

การฟ้องร้องและคำตัดสินของศาล

ต่อมา เกิดข้อพิพาทระหว่างทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซุยจึงได้ฟ้องเย่ที่ศาลมาเวย เพื่อเรียกร้องคืนเงินจำนวน 18,000 หยวน ที่เขาเชื่อว่าได้มาอย่างไม่เป็นธรรม.

ล่าสุด ศาลมาเวยมีความเห็นว่า ปัจจุบันในประเทศจีน สกุลเงินดิจิทัลที่ออนไลน์ ไม่มีสถานะทางกฎหมายเช่นเดียวกับเงินสกุลหลัก และไม่สามารถนำมาใช้เป็นเงินในตลาดได้ การลงทุนและการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของประชาชนจึงถือว่าละเมิดระเบียบการกำกับดูแลทางการเงินของประเทศ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบสาธารณะและจารีตประเพณีที่ดี จึงไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมาย.

ในกรณีนี้ การลงทุนของซุยในสกุลเงินดิจิทัลผ่านเย่ในแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่กฎหมายแพ่งในจีนนั้นจะคุ้มครอง และผลที่เกิดขึ้นควรตกเป็นภาระของซุย เพราะคำร้องขอของเขาขาดฐานข้อเท็จจริงและกฎหมาย.

ตามมาตรา 8 และมาตรา 153 ของประมวลกฎหมายแพ่งแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คำฟ้องของโจทก์ซุยจึงถูกยกฟ้อง. คำตัดสินนี้มีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ โดยผู้พิพากษาได้เตือนนักลงทุนทั่วไปว่า “หลายคนถูกล่อลวงโดยผลตอบแทนสูงของสกุลเงินดิจิทัล แต่พวกเขามักมองข้ามความเสี่ยงทางกฎหมายและช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่มีอยู่” และแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยง เลือกช่องทางการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมในการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลซึ่งถือว่าเป็น “เกมที่อันตรายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด”.

ล่าสุดจาก Blog