การสอบสวนกลโกงคริปโตในมาเลเซีย
ตำรวจในมาเลเซียกำลังสอบสวน กลโกงคริปโต ที่หลอกลวงผู้เกษียณอายุวัย 71 ปี สูญเสียเงิน RM 525,000 โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง กัวลาตรังกานู ซึ่งผู้หลอกลวงได้เข้าหาผู้เสียหายผ่านการสื่อสารออนไลน์ หลังจากที่ผู้เสียหายพบโอกาสการลงทุนที่น่าสงสัยผ่านโฆษณาบน Facebook
สื่อท้องถิ่น Malaysiakini รายงานเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โฆษณาบน Facebook ได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดีในฐานะเครื่องมือที่ผู้หลอกลวงคริปโตใช้เพื่อโปรโมตแผนการลงทุนคริปโตปลอม หรือเปลี่ยนเส้นทางผู้เสียหายไปยังการแลกเปลี่ยนคริปโตปลอมและแพลตฟอร์มการลงทุนที่หลอกลวงซึ่งออกแบบมาเพื่อดูดเงินออมของพวกเขา
โฆษณาเหล่านี้มักมีการอ้างสิทธิ์ที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการสนับสนุนจากคนดังหรือความเชื่อมโยงกับโครงการคริปโตที่มีชื่อเสียง และถูกออกแบบให้ดูเป็นมืออาชีพพอที่จะผ่านการตรวจสอบว่าเป็นของจริง
“ผู้เสียหายได้ทำธุรกรรมเจ็ดรายการไปยังบัญชีของผู้ต้องสงสัยระหว่างวันที่ 20 ถึง 27 สิงหาคม โดยใช้เงินออมจากการเกษียณอายุของเขา” – Azli Noor, หัวหน้าตำรวจเขตกัวลาตรังกานู
ขณะนี้ยังไม่มีการจับกุม แต่ตำรวจสงสัยว่ามี ซินดิเคท ที่ดำเนินการอยู่เบื้องหลังกลโกงนี้ ในช่วงต้นปีนี้ เจ้าหน้าที่มาเลเซียได้เตือนว่าผู้ไม่หวังดีได้มุ่งเป้าไปที่ชาวบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
Datuk Seri Ramli Mohamed Yoosuf ผู้อำนวยการกองบังคับการอาชญากรรมทางการค้า Bukit Aman กล่าวในขณะนั้นว่าผู้หลอกลวงมักจะแอบอ้างเป็นหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และธนาคาร เพื่อสร้างความไว้วางใจจากผู้เสียหายและกดดันให้พวกเขาโอนเงินจำนวนมาก
ตามที่ Ramli กล่าว ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงเสียงที่สร้างโดย AI และภาพลวงตาแบบ deepfake ทำให้ผู้หลอกลวงสามารถจัดฉากการแอบอ้างที่น่าเชื่อถือและดำเนินการหลอกลวงที่ซับซ้อนซึ่งยากต่อการตรวจจับจนกว่าจะสายเกินไป
นอกเหนือจากกลโกงการลงทุน ประเทศยังได้เห็นการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการขุดคริปโตที่ผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ได้ทำการบุกค้นหลายครั้งในปีที่ผ่านมาเพื่อทำลายการดำเนินงานเหล่านี้ซึ่งมักใช้ไฟฟ้าที่ถูกขโมยและฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีใบอนุญาต
ท่ามกลางสถานการณ์นี้ มาเลเซียยังคงเปิดรับการเสริมสร้างเศรษฐกิจคริปโตของตน และตามรายงานก่อนหน้านี้ คณะกรรมการหลักทรัพย์ของมาเลเซียได้ออกเอกสารการปรึกษาหารือที่ต้องการปรับปรุงกรอบสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศเพื่อแนะนำการคุ้มครองนักลงทุนและมาตรฐานการออกใบอนุญาตที่ดีขึ้น