คดีตัวอย่างเกี่ยวกับอาชญากรรมการปกปิดและปลอมแปลงรายได้จากอาชญากรรม
ศาลประชาชนสูงสุดของจีนและอัยการสูงสุดได้ร่วมกันเผยแพร่คดีตัวอย่างเกี่ยวกับ อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการปกปิดและปลอมแปลงรายได้จากอาชญากรรม โดยเฉพาะคดี “อันและผู้อื่นที่ใช้สกุลเงินดิจิทัลในการปกปิดและปลอมแปลงรายได้จากอาชญากรรม”
รายละเอียดของคดี
ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคม 2020 จำเลย อัน, เฉิน และกัว ได้ร่วมกันวางแผนโอนเงินให้ผู้อื่นเพื่อทำกำไรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อันได้ติดต่อกับอาชญากรจากกลุ่มฉ้อโกงทางโทรคมนาคม (ซึ่งถูกดำเนินการในคดีแยกต่างหาก) ออนไลน์ และได้จัดเตรียมบัญชีธนาคารหลายบัญชีที่เป็นของกัวเพื่อรับเงินตามคำแนะนำของอาชญากร
หลังจากที่กัวได้จัดเตรียมบัญชีธนาคารแล้ว เขาได้ลงทะเบียนและเข้าสู่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในนามของตนเอง ขณะที่เฉินได้ดำเนินการแพลตฟอร์มการซื้อขายเพื่อโอนเงินที่ได้รับจากผู้อื่นไปยังบัญชีธนาคารของกัวเพื่อซื้อสกุลเงินดิจิทัล
สกุลเงินดิจิทัลนั้นถูกโอนเข้าบัญชีที่กำหนดโดยอาชญากร ซึ่งได้จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับอันและผู้อื่นตามสัดส่วน อันและผู้อื่นได้ช่วยอาชญากรโอนเงินจำนวนมากในลักษณะดังกล่าว รวมถึงเหยื่อที่ได้รับการยืนยันเช่น ตัง, จู, และตง ซึ่งถูกหลอกลวงรวมกันมากกว่า 500,000 RMB
การดำเนินคดีและคำพิพากษา
อัยการของเขตตงโจว กรุงปักกิ่ง ได้ฟ้องอันและจำเลยอีกสองคนในข้อหาปกปิดและปลอมแปลงรายได้จากอาชญากรรม และนำพวกเขาขึ้นสู่การพิจารณาคดีที่ศาลประชาชนเขตตงโจว
หลังจากการพิจารณาคดี ศาลประชาชนเขตตงโจวเชื่อว่าจากคำสารภาพของจำเลยทั้งสามและหลักฐานที่ได้จากโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องในคดี เช่น บันทึกการสนทนา มีความเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสามจัดการนั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นรายได้จากอาชญากรรม
อันและจำเลยอีกสองคนทราบว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นรายได้จากอาชญากรรมของบุคคลอื่น และได้ใช้สกุลเงินดิจิทัลและวิธีการอื่น ๆ เพื่อช่วยในการโอนเงินอาชญากรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นอาชญากรรมในการปกปิดและปลอมแปลงรายได้จากอาชญากรรม โดยมีสถานการณ์ที่ร้ายแรง
โทษที่ได้รับ
- อันถูกตัดสินจำคุก สามปีสามเดือน ในข้อหาปกปิดและปลอมแปลงรายได้จากอาชญากรรมและถูกปรับ 40,000 RMB
- เฉินถูกตัดสินจำคุก สามปีสามเดือน และถูกปรับ 40,000 RMB
- กัวถูกตัดสินจำคุก สองปีแปดเดือน และถูกปรับ 30,000 RMB
คำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุดโดยไม่มีการอุทธรณ์หรือคัดค้าน และคำตัดสินได้มีผลบังคับใช้แล้ว