คู่มือการเก็บรักษากระเป๋าคริปโตจาก SEC
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้เผยแพร่ คู่มือการเก็บรักษากระเป๋าคริปโต และข้อมูลสำหรับนักลงทุนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและความเสี่ยงทั่วไปของรูปแบบการเก็บรักษาคริปโตที่แตกต่างกันสำหรับประชาชนที่ลงทุน
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
คู่มือของ SEC ได้ระบุถึง ประโยชน์ และ ความเสี่ยง ของวิธีการเก็บรักษาคริปโตที่แตกต่างกัน รวมถึงการเก็บรักษาด้วยตนเองเทียบกับการอนุญาตให้บุคคลที่สามถือสินทรัพย์ดิจิทัลในนามของนักลงทุน
หากนักลงทุนเลือกการเก็บรักษาจากบุคคลที่สาม พวกเขาควรเข้าใจนโยบายของผู้ดูแล รวมถึงว่ามีการ “rehypothecate” สินทรัพย์ที่ถืออยู่ในความดูแลโดยการปล่อยกู้หรือไม่ หรือว่าผู้ให้บริการมีการรวมสินทรัพย์ของลูกค้าในพูลเดียวแทนที่จะเก็บคริปโตในบัญชีลูกค้าที่แยกต่างหาก
ประเภทของกระเป๋าคริปโต
คู่มือของ SEC ยังได้ชี้แจงประเภทของกระเป๋าคริปโต โดยได้แบ่งข้อดีและข้อเสียของกระเป๋าฮอต ซึ่งเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และการเก็บรักษาแบบออฟไลน์ในกระเป๋าคอลด์
ตามที่ SEC ระบุ กระเป๋าฮอตมีความเสี่ยงจากการแฮ็กและภัยคุกคามด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ในขณะที่กระเป๋าคอลด์มีความเสี่ยงจากการสูญหายถาวรหากการเก็บรักษาออฟไลน์ล้มเหลว อุปกรณ์เก็บข้อมูลถูกขโมย หรือกุญแจส่วนตัวถูกเปิดเผย
การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ
คู่มือการเก็บรักษาคริปโตของ SEC เน้นถึงการ เปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ที่กว้างขวางในหน่วยงาน ซึ่งเคยมีท่าทีไม่เป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมคริปโตในสมัยที่ Gary Gensler เป็นประธาน SEC
ชุมชนคริปโตเฉลิมฉลองคู่มือของ SEC ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหน่วยงาน โดย
“หน่วยงานเดียวกันที่ใช้เวลาหลายปีพยายามทำลายอุตสาหกรรม ตอนนี้กำลังสอนผู้คนให้ใช้มัน”
Jake Claver ซีอีโอของ Digital Ascension Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการแก่สำนักงานครอบครัว กล่าวว่า SEC กำลังมอบ “คุณค่าอันมหาศาล” ให้กับนักลงทุนคริปโตโดยการให้ความรู้แก่ผู้ถือคริปโตที่มีแนวโน้มเกี่ยวกับการเก็บรักษาและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
การอนุมัติจาก SEC
ผู้ควบคุมของ SEC ได้เผยแพร่คู่มือหนึ่งวันหลังจากที่ประธาน SEC Paul Atkins กล่าวว่าระบบการเงินเก่ากำลังเคลื่อนเข้าสู่ระบบบล็อกเชน
ในวันพฤหัสบดี SEC ได้อนุมัติให้ Depository Trust and Clearing Corporation (DTCC) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการชำระเงินและการเคลียร์ เริ่มต้นการสร้างโทเค็นสินทรัพย์ทางการเงิน รวมถึงหุ้น กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETFs) และหลักทรัพย์หนี้สาธารณะ